วัดเตย วัดเก่า อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รัชกาลที่ ๕

 เที่ยวแล้วกลับมาเล่า "เมืองนนทบุรี" 

๖ เมษายน ๒๕๖๕

ตอน : วัดเตย "กรรมของกาลเวลาในรอบ ๑๐๐ ปี"

วัดเตย เป็นวัดเก่าวัดหนึ่งใน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 

มีโบราณสถาน คือ "โบสถ์จมน้ำ"

ตามประวัติที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 

หลวงรามัญนนทเขตรคดี (ทับ) 

กรรมการอำเภอปากเกร็ด กับราษฎร 

เป็นผู้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา 

และพระราชทานให้เมื่อ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ร.ศ.๑๑๘ 

( พ.ศ.๒๔๔๓ เป็นปีที่ ๓๓ ในรัชกาลที่ ๕ )

รวมอายุถึงปัจจุบัน (๒๕๖๕) ๑๒๒ ปี 

แต่เดิมวัดเตยตั้งอยู่บนที่ราบลุ่ม น้ำท่วมขัง ทุกปี

ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้จัดทำโครงการยกพื้นที่ในเขตวัดขึ้น 

ครั้งแรก สูงประมาณ ๑ เมตร

ต่อมาใน ปี พ.ศ.๒๕๒๖  น้ำท่วมอีก 

จึงได้ปรับถมที่เพิ่มสูงอีก ๑ เมตร 

และสุดท้ายในปี  พ.ศ.๒๕๓๘ น้ำท่วมมาก 

ทางวัดจึงได้ถมพื้นที่สูงขึ้นมาอีก 

จนปัจจุบันน้ำไม่ท่วมวัดแล้ว

แต่พระอุโบสถเดิม ซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยดินถม 

จึงตกอยู่ในสภาพต่ำกว่าพื้นที่โดยรอบ แก้ไขอะไรไม่ได้

เพราะเป็นโบราณสถาน

วัดไม่สะดวกที่จะทำสังฆกรรม 

จึงถอนพัทธสีมาจากโบสถ์เก่า สร้างพระอุโบสถใหม่ขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ 

และนำ พระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างเมื่อ ร.ศ. ๑๑๗ 

( พ.ศ.๒๔๔๒ ปีที่ ๓๒ ในรัชกาลที่ ๕ ) 

มาประดิษฐานเป็นประธานในพระอุโบสถหลังใหม่ 

เขียนภาพจิตรกรรมใหม่ทั้งหมด 

เป็นภาพพุทธประวัติ

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารถ 

และ พระธาตุเจดีย์ ประจำปีเกิด ทั้ง ๑๒ ปี  

พระอุโบสถหลังใหม่

ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่อีกครั้ง ในปี  พ.ศ. ๒๕๕๖

ส่วนโบส์เก่า จึงต้องปล่อยทิ้งไว้ โดยดัดแปลงใช้พื้นที่รอบโบสถ์ 

เป็นบ่อเลี้ยงปลา ไปโดยปริยาย.

กรรมของกาลเวลาที่เป็นไปในรอบ ๑๐๐ ปี ของโบราณสถาน

พระอุโบสถ (เก่า) พระราชทานให้เมื่อ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ร.ศ.๑๑๘ ( พ.ศ.๒๔๔๓ เป็นปีที่ ๓๓ ในรัชกาลที่ ๕ )

รวมอายุถึงปัจจุบัน (๒๕๖๕) ๑๒๒ ปี

พระอุโบสถ หลังใหม่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ใหม่อีกครั้ง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖

ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ในพระอุโบสถ หลังใหม่ ซึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ใหม่อีกครั้ง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖