Best Thai History

Amps

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565

นางพญาตานี กับ เจ้าเมืองสงขลา

 "สทิง สิงขร สงขลา"

๒๔ - ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕

ตอน : นางพญาตานี กับ เจ้าเมืองสงขลา

พระยาสุวรรณคีรีสมบัติ (เหยี่ยง แซ่เฮา) 
มีภรรยาเป็นคนพัทลุง 
และมีบุตร ๕ คน คือ 
บุญหุ้ย บุญเฮี้ยว บุญชิ้น เถี้ยนเส้ง และยกเส้ง 
พระยาเหยี่ยง เจ้าเมืองสงขลา ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา
เมื่ออายุได้ ๖๘ ปี ในสมัยรัชกาล ที่ ๑ 
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
"นายบุญฮุย" บุตรชายคนโต 
เป็นเจ้าเมืองสงขลา สืบต่อมา
พ.ศ. ๒๓๒๘ (ปีที่ ๔ ในรัชกาลที่ ๑ ) 
พม่ายกกองทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ ที่เรียกว่า "สงครามเก้าทัพ"
และยกทัพเลยลงมาตีเมืองนครศรีธรรมราช แตก 
ในปี พ.ศ.๒๓๒๙ (ปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๑ ) 
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดเกล้าฯ ให้
สมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคลมหาสุรสิหนาท
ยกกองทัพมาตีเอาเมืองนครฯ คืน  
ในขณะที่ เจ้าเมืองสงขลา
ได้ตั้งค่ายเตรียมป้องกันเมืองอยู่ที่ "บ้านบ่อยาง" 
เมื่อสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท 
เสร็จศึกเมืองนครฯ แล้ว จึงเสด็จฯ ต่อไป เมืองสงขลา
ตั้งพลับพลาที่ตำบลบ่อพลับ เมืองสงขลา 
ให้พระยาไทร พระยาตรังกานู 
พระยากลันตัน และพระยาตานี มาเข้าเฝ้าฯ พร้อมกัน 
แต่พระยาตานีแข็งขืน จึงโปรดเกล้าฯ 
ให้หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ (บุญหุ้ย) 
เป็นทัพหน้าไปตีเมืองตานี ก่อนที่ทัพหลวงจะตามไป 
หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ (บุญหุ้ย) จับตัวพระยาตานี ได้ 
พร้อมนำ "ปืนใหญ่นางพญาตานี" ไปเข้าเฝ้าฯ 
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ที่กรุงเทพฯ  
ความดีความชอบในครั้งนั้น 
จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนฐานันดรศักดิ์ ขึ้นเป็น
"พระยาสุวรรณคีรีสมบัติ (บุญหุ้ย)"
ปกครองเมืองสงขลา


พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
( ครองราชย์ พ.ศ.๒๓๒๕ - พ.ศ.๒๓๕๒ )



สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท



เจ้าพระยาอินทคีรีสมบัติ (บุญหุ้ย) ปกครองเมืองสงขลา
ในช่วงปี พ.ศ. ๒๓๒๗ - พ.ศ.๒๓๕๔



ภาพวาดเมืองปัตตานี



เมืองปัตตานี จาก Google Map ปัจจุบัน



ภาพวาดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ตอน "ตีเมืองปัตตานี"
อายุสมัย: รัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๕ พุทธศักราช ๒๔๓๐




"นางพญาตานี"ปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น