Best Thai History

Amps

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565

วัดสทิงพระ ตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย ต่อมาได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ ในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถแห่งกรุงศรีอยุธยา ตอนที่ 3

 "สทิง สิงขร สงขลา"

๒๔ - ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕

ตอน : วัดสทิงพระ (๓) วิหารพระพุทธไสยาสน์

วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ในวัดสทิงพระ ยังมี
พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ขนาด ๕ ห้อง หลังหนึ่ง 
หน้าบันด้านทิศตะวันออก
เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 
มีพาไลออกมาทางด้านข้าง 
ประตูทางเข้า เป็นซุ้มโค้ง 
ส่วนที่เป็นวิหาร มีประตูทางเข้า ๑ ประตู ทางด้านพระบาท 
และ หน้าต่างเป็นแบบซี่ลูกกรง
ภายในวิหาร มีพระพุทธไสยาสน์ ลืมพระเนตร ๑ องค์ 
ลักษณะบรรทมโดยมีพระกรขวายื่นออกมาข้างหน้า
ไม่งอขึ้นไปหนุนพระเศียร 
มีพระเขนยเตี้ย ๆ รองรับอีกชั้นหนึ่ง  
ลักษณะเช่นนี้ 
ไม่เหมือนกับการสร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยทั่วไป 
แต่ลักษณะเหมือนกับพระพุทธรูปปางปรินิพพาน 
ที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย 
แสดงให้เห็นว่า การสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ 
ผู้สร้างหรือผู้ให้สร้าง 
ต้องเคยเห็นรูปแบบปางปรินิพพานที่กุสินารา มาก่อน 
นอกจากนี้ ที่ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ 
จากรายงานการสำรวจจิตรกรรมฝาผนัง
วัดจะทิ้งพระ เมื่อปี ๒๕๒๓ ระบุว่า 
ผู้เขียนภาพมี ๓ คน คือ พระครูวิจารณ์ศีลคุณ (ชู) อดีตเจ้าอาวาส 
นายเคลื่อน และลูกมือนายช่างใบ้ 
ได้เขียนขึ้นเมื่อประมาณ ๑๐๐ ปี มาแล้ว 
แต่ปัจจุบันได้ลบเลือนไปเกือบหมด 
คงเหลือให้เห็นเพียงด้านทิศตะวันออก 
เป็นภาพ ตอนเสด็จโปรดพุทธมารดา 
และ เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 
จากหลักฐานทั้ง สถาปัตยกรรม ประติมากรรม และภาพจิตรกรรม 
เมื่อนำมาพิจารณาประกอบร่วมกัน แล้ว เชื่อว่า 
พระพุทธไสยาสน์ และวิหารหลังนี้ 
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ( พ.ศ.๒๔๑๔  ) ลงมา



วิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา



ระเบียงใต้พาไล วิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา







พระพุทธไสยาสน์ ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา





พระพุทธรูปปางปรินิพพาน ที่ เมืองกุสินารา อินเดีย



ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา




ภาพฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ เสด็จ วัดจะทิ้งพระ ในวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๔



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น