"สทิง สิงขร สงขลา"
๒๔ - ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ตอน : วัดสทิงพระ (๓) วิหารพระพุทธไสยาสน์
วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ในวัดสทิงพระ ยังมี
พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ขนาด ๕ ห้อง หลังหนึ่ง
หน้าบันด้านทิศตะวันออก
เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
มีพาไลออกมาทางด้านข้าง
ประตูทางเข้า เป็นซุ้มโค้ง
ส่วนที่เป็นวิหาร มีประตูทางเข้า ๑ ประตู ทางด้านพระบาท
และ หน้าต่างเป็นแบบซี่ลูกกรง
ภายในวิหาร มีพระพุทธไสยาสน์ ลืมพระเนตร ๑ องค์
ลักษณะบรรทมโดยมีพระกรขวายื่นออกมาข้างหน้า
ไม่งอขึ้นไปหนุนพระเศียร
มีพระเขนยเตี้ย ๆ รองรับอีกชั้นหนึ่ง
ลักษณะเช่นนี้
ไม่เหมือนกับการสร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยทั่วไป
แต่ลักษณะเหมือนกับพระพุทธรูปปางปรินิพพาน
ที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย
แสดงให้เห็นว่า การสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์นี้
ผู้สร้างหรือผู้ให้สร้าง
ต้องเคยเห็นรูปแบบปางปรินิพพานที่กุสินารา มาก่อน
นอกจากนี้ ที่ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ
จากรายงานการสำรวจจิตรกรรมฝาผนัง
วัดจะทิ้งพระ เมื่อปี ๒๕๒๓ ระบุว่า
ผู้เขียนภาพมี ๓ คน คือ พระครูวิจารณ์ศีลคุณ (ชู) อดีตเจ้าอาวาส
นายเคลื่อน และลูกมือนายช่างใบ้
ได้เขียนขึ้นเมื่อประมาณ ๑๐๐ ปี มาแล้ว
แต่ปัจจุบันได้ลบเลือนไปเกือบหมด
คงเหลือให้เห็นเพียงด้านทิศตะวันออก
เป็นภาพ ตอนเสด็จโปรดพุทธมารดา
และ เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
จากหลักฐานทั้ง สถาปัตยกรรม ประติมากรรม และภาพจิตรกรรม
เมื่อนำมาพิจารณาประกอบร่วมกัน แล้ว เชื่อว่า
พระพุทธไสยาสน์ และวิหารหลังนี้
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ( พ.ศ.๒๔๑๔ ) ลงมา
วิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา
ระเบียงใต้พาไล วิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา
พระพุทธไสยาสน์ ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา
พระพุทธรูปปางปรินิพพาน ที่ เมืองกุสินารา อินเดีย
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดสทิงพระ จ.สงขลา
ภาพฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ เสด็จ วัดจะทิ้งพระ ในวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น