"สทิง สิงขร สงขลา"
๒๔ - ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ตอน : วัดดีหลวง (๒) พระอุโบสถ และศาลาพระอธิการแก้ว
วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕
ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่
พระอุโบสถหลังคาซ้อนลดชั้น ๒ ชั้น
ส่วนที่เป็นพาไลระเบียง ก่อเต็มโดยรอบ
พระประธานในพระอุโบสถ
เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง
ประดิษฐานอยู่ในซุ้มคูหา
ด้านหน้าช่องซุ้มคูหา
ประดิษฐานพระพุทธรูปปางเปิดโลกภายใต้เศวตฉัตร ไว้ ๒ องค์
ภายในคูหามีภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุม
มีจารึกเขียนบนปูนที่ฐานด้านหน้า ถอดความได้ว่า
“ (๑)ชื่อต้นคนได้โมทนาใน..พระบาทพระพุทธศาสนาได้ ๒๔๖๓...ล่วงแล้วใน....ปีแรม ๖ ค่ำเดือน...ขอเป็นไปข้างหน้า......
(๒)...นายเมือง ภรรยาชื่อนางเกิด ร่วมน้ำใจในพระศาสนา ถือศีลภาวนา...ลงเห็นในปัน....ออกมา มูลค่าห้าสิบบาท ออกซื้อชาดและรักทอง
(๓)เอามาติดรูปพระปฏิมา เสร็จแล้ว...ฉลอง.......พระนิรพาน ในอนาคต...เถิด
จารึกที่ฐานพระประธานระบุ ว่า
ได้ลงรักปิดทองพระประธานองค์นี้ เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๖๗
ตรงกับปีที่ ๑๕ ในรัชกาลที่ ๖
จากลักษณะที่พระประธานอยู่ในซุ้มคูหา เช่นนี้
มีผู้สันนิษฐานว่า พระอุโบสถหลังนี้
แต่เดิมคงเป็นอาคารโปร่ง
ต่อมา ได้รับการซ่อมแปลงเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
คงในสมัย “อาจารย์แก้ว พุทธฺมุนี” อดีตเจ้าอาวาส
เนื่องจาก “อาจารย์แก้ว พุทธฺมุนี” อดีตเจ้าอาวาส เป็นช่าง
และมรณภาพไปเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๖ (ปีที่ ๑๐ ในรัชกาลที่ ๘ )
มีอายุสอดคล้องกับ
จารึกเขียนบนปูนฐานพระประธานในพระอุโบสถ พ.ศ.๒๔๖๓
ดังนั้น จึงอนุมานได้ว่า
พระอุโบสถหลังนี้ ได้ซ่อมแปลง ครั้งใหญ่
ในช่วง เวลาที่ "พ่อท่านแก้ว พุทธมุนี" เป็นเจ้าอาวาส
อาจอยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ ถึง รัชกาลที่ ๘
พระอุโบสถ และ พระอุโบสถ และ เจดีย์ ๘ ทิศ วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
พัทธสีมาเอก และ ที่บรรจุอัฐิ พระอาจารย์จวง เจ้าอาวาส รูปแรก หน้าพระอุโบสถ วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
เจดีย์ทิศตะวันออก นอกเขตพัทธสีมา พระอุโบสถ วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
พระประธานในซุ้มคูหา พระอุโบสถ วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
จารึก เขียนบนปูน หน้าคูหาพระประธาน พระอุโบสถ วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
จารึก เขียนบนปูน หน้าคูหาพระประธาน ระบุ ปี พ.ศ.๒๔๖๓ พระอุโบสถ วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา
ศาลาอาจารย์แก้ว พุทธฺมุนี สร้างโดยคณะศิษย์ยานุศิษย์ร่วมกันสร้างถวาย เป็นพุทธบูชาเพื่อประดิษฐานสรีระสังขารของอาจารย์แก้ว พุทธฺมุณี อดีตเจ้าอาวาสวัดดีหลวง เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น