Best Thai History

Amps

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

วัดศาลเจ้า สร้างขึ้น ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๓๑๐ แล้ว

 ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา สู่สามโคก-ปทุมธานี 

ตอน ๔ : วัดศาลเจ้า 

ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๓๑๐ แล้ว 
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 
ทรงตั้งกรุงธนบุรี ขึ้นเป็นศูนย์กลางการปกครอง 
และโปรดฯ พระราชทานที่ให้ พระยาเจ่ง พระยาอู่ ตละเกลี้ยง ตละเกล็บ 
และชาวมอญ ที่เข้ามาสวามิภักดิ์ ขอพึงพระบรมโพธิสมภาร 
ตั้งบ้านเรือนในเขตเมืองนนทบุรีตั้งแต่ปากเกร็ดไปจนถึงสามโคก 
ณ เวลานั้น วัดมะขาม อาจชำรุดทรุดโทรมลง 
โดยขาดผู้อุปถัมภ์ 
จึงเป็นจังหวะเวลา ที่กลุ่มมอญที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ใกล้กับวัดมะขาม 
จะได้เข้ามาบำรุงและอุปัฏฐากวัด และสร้างวัดใหม่ขึ้นอีกวัดหนึ่ง 
ในบริเวณใกล้กับศาลเจ้า ปุนเถ้ากง 
จึงปรากฏเจดีย์มอญ อยู่ในวัดมะขามและ วัดศาลเจ้า ด้วย 
ในช่วงเวลาเดียวกัน  
"ศาลเจ้าปุนเถ้ากง" ปากคลองบางหลวงเขียงราก 
ก็ยังมีชาวบ้านชาวเรือ และชาวจีน นับถืออยู่ 
จนเจริญขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การอุปถัมภ์ ของชาวเรือชาวจีน 
ในระยะหลังต่อมา 
ชาวจีน ชื่อ แปะกิมเคย หรือ แปะโง้วกิมโคย 
นามเดิมของท่านคือ นายกิมเคย แซ่โง้ว เป็นชาวจีน 
เกิดที่ตำบลเท้งไฮ้ เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๔๐ -๒๔๔๑ 
เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเมื่ออายุได้ราว ๑๐ ขวบ (สมัยรัชกาลที่ ๕ ) 
ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ค้าข้าวเปลือก 
เมื่อตั้งตัวได้ จึงร่วมหุ้นก่อตั้งโรงสีข้าวบริเวณปากคลองบางโพธิ์ล่าง 
ปัจจุบันคือ ตำบลบางเดื่อ อำเภอเมืองปทุมธานี 
 หลังจากนั้นท่านได้ตั้งกิจการโรงสีของตนเอง
ที่บริเวณปากคลองเชียงราก ใกล้กับวัดศาลเจ้า 
พร้อมทั้งได้รับสัญชาติไทย 
และเปลี่ยนชื่อเป็นนายนที ทองศิริ 
ท่านมีความสำคัญมากต่อการดำเนินงานของวัดศาลเจ้า 
ทั้งในเรื่องของการบูรณะซ่อมแซม และจัดการพิธีกรรมต่าง ๆ 
ในงานสำคัญของศาลเจ้า
ตั้งแต่ยังเป็นเพียงอาคารไม้เก่า ๆ 
ปัจจุบันศาลเจ้าของท่าน 
ชาวจีนและคนที่นับถือ หล่อรูปเหมือนของท่าน
และยกย่องให้เป็นเซียน  
เรียกว่า “เซียนแปะโรงสี” หรือ “เซียนแปะกิมเคย” 
หรือ “เซียนแปะโง้วกิมโคย” 
ตั้งอยู่ศาลานที ทองศิริ ภายในวัดศาลเจ้า จังหวัดปทุมธานี













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น