Best Thai History

Amps

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2565

โบราณสถาน วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง อุทัยธานี สร้างขึ้นใน ปี มะโรง พ.ศ.๒๔๕๙ ปีที่ ๗ ในรัชกาลที่ ๖

 วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง อุทัยธานี

กับการกำหนดอายุโบราณสถาน : โบสถ์และวิหารร้าง

อาคารที่ปรากฏให้เห็น เป็นอาคาร ๒ หลัง 
มณฑปรอยพระพุทธบาท 
กับเจดีย์อีกหลายองค์ 
ในที่นี้ จะไม่กล่าวถึงพระอุโบสถหลังใหม่ 
และมณฑปรอยพระพุทธบาท 
แต่จะอธิบายถึงเฉพาะ อาคารร้างในปัจจุบัน ดังนี้ 
อาคารร้างหลังนี้ 
สร้างคู่กับ พระอุโบสถหลังใหม่ 
สภาพทรุดโทรม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว 
กำหนดได้ว่า เป็นอาคารที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ 
แต่หลักฐานจากใบสีมา 
และพระพุทธรูปหินทราย หุ้มปูนลงรักปิดทอง 
ที่พบภายในวิหาร มีอายุเก่าถึงสมัยอยุธยา
ด้านหน้า (ทิศตะวันออก) มีภาพเส้นกรอบสีฟ้าบนผนัง 
เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย 
ประกอบภาพด้วยภาพดอกไม้ร่วง 
ที่ฐานเขียนว่า
 “พระชินราช  พ่อแก้วแม่โหมดก่อสร้าง เมื่อปีมะโรง พระพุทธศักราช ๒๔๕๙ สิ้นทุนละทรัพย์สี่พันเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าบาท ๔๗๒๙ บาทถ้วนเสร็จเทอญ”
บานประตูไม้แกะสลัก 
เป็นรูปเทวดาถือดอกไม้ แต่ไม่เสร็จเรียบร้อย 
ลักษณะเป็นฝีมือแบบชาวบ้าน 
ภายในอาคาร ทรุดโทรปรักหักพังมาก 
สิ่งที่ปรากฏภายในเป็น
แท่นก่ออิฐถือปูนสี่เหลี่ยมจตุรัส 
เป็นฐานเหมือนชุกชี มีฐานกลีบบัวอยู่บนสุด 
ตั้งอยู่เกือบกลางห้อง 
มีชิ้นส่วนใบสีมาหินทราย ๑ ใบ 
และมีฐานสำหรับตั้งพระขนาดเล็กอีกฐานหนึ่ง 
อยู่ติดกับผนังด้านทิศตะวันตก 
มีชิ้นส่วนของพระพุทธรูป ๒ องค์ 
ประทับนั่งขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ไม่มีเศียร 
พิงอยู่ริมผนัง องค์หนึ่งยังเห็นสภาพว่ามีการลงรักปิดทอง  
ได้ตรวจดูแล้ว เห็นว่า 
แกนในเป็นพระพุทธรูปหินทราย สมัยอยุธยา 
นอกจากใบสีมาหินทราย ที่พบในอาคารร้างหลังนี้ แล้ว 
ยังพบใบสีมาหินทรายเช่นเดียวกันอีกหลายใบ 
มีลักษณะเหมือนจะใกล้เคียงกัน 
แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว 
โดยเฉพาะใบที่ใช้เป็นพัทธสีมาเอกของโบสถ์หลังใหม่ 
ซึ่งดูจะสมบูรณ์ที่สุด 
จากการประมวลหลักฐาน เท่าที่พบในขณะสำรวจ 
มีโบราณวัตถุที่สามารถเคลื่อนที่ได้หลายอย่าง เช่น
พระพุทธรูป และ ใบสีมา ซึ่งเก่าถึงสมัยอยุธยา 
ทุกอย่างได้ถูกนำมาทิ้งอยู่ในอาคารหลังนี้ 
ซึ่งมีจารึกเขียนไว้ชัดเจนว่า 
สร้างขึ้นใน ปี มะโรง พ.ศ.๒๔๕๙ (ปีที่ ๗ ในรัชกาลที่ ๖) 
ส่วนฐานที่ตั้งเป็นประธานอยู่อาคาร ๒ ฐาน นั้น 
บนฐานใหญ่น่าจะเคยมี "รอยพระพุทธบาท" 
หรือ รูปโลงศพที่มี พระพุทธบาทยื่นออกมาให้พระมหากัสสปะ 
กราบก่อนวันถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า 
ซึ่งถูกย้ายออกไปแล้ว น่าจะอยู่ในมณฑปที่สร้างใหม่ ด้านหลัง 
และทิ้งอาคารหลังนี้ให้ร้างมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนพระพุทธรูปสององค์ที่พิงอยู่ข้างผนัง นั้น 
อาจนำมาจากที่อื่น ได้เช่นเดียวกัน  
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า 
อาคารหลังนี้ ไม่ใช่อาคารพระอุโบสถเก่า 
แต่เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใช้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท 
ใน พ.ศ.๒๔๕๙  
ส่วนพระอุโบสถหลังเก่า ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา นั้น
น่าจะยังคงตั้งอยู่บริเวณที่สร้างโบสถ์หลังใหม่ 
แต่ไม่มีสภาพเดิมให้เห็นแล้ว
นอกจากพระพุทธรูป หินทราย ๒ องค์ และใบสีมาเก่า 
ที่ยกไปทิ้งไว้ในอาคารวิหารพระพุทธบาทเก่า เท่านั้น


ด้านทิศตะวันออก อาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท) และมณฑปรอยพระพุทธบาท วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี


ด้านทิศตะวันตก อาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท)
และพระอุโบสถหลังใหม่ วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี



ฐานพระพุทธบาท ภายในอาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท) วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี




พระพุทธรูปหินทราย สมัยอยุธยา ในอาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท) วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี



แกะสลักบานประตูไม้ ลักษณะเป็นฝีมือแบบชาวบ้าน และไม่เสร็จเรียบร้อย ดูเหมือนรูปเทวดาถือดอกไม้
วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี


รูปวาดพระพุทธชินราช หน้าอาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท) วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี


จารึกฐานรูปพระพุทธชินราช หน้าอาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท) วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี



ใบพัทธสีมา เก่า สมัยอยุธยา ในอาคารร้าง(วิหารพระพุทธบาท) วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี


ใบพัทธสีมาเก่า สมัยอยุธยา แต่งใหม่ ใช้เป็นพัทธสีมาเอกในพระอุโบสถหลังใหม่ วัดดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น