Best Thai History

Amps

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2564

การสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ พระบรมอัฐิ อยู่ที่ไหน คงต้องตามหากันต่อไป

เรื่อง "การสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์" (ต่อ)

หลักฐานเอกสารในพระราชพงศาวดาร 
บันทึกว่า 
" เมื่อกองทัพพม่า ยกกลับไปแล้ว จึงพระนายกองผู้อยู่รักษากรุง 
ก็ใช้ผู้คนไปเที่ยวค้นหาพระเจ้าแผ่นดินทุกแห่งทุกตำบล
จึงไปพบที่สุมทุมไม้ใกล้ "บ้านจิก"
อดอาหารมิได้เสวยถึง ๑๑ -๑๒ วัน
คนทั้งนั้น จึงหามพระองค์มาลงเรือ
รับขึ้นไป ณ ค่ายโพสามต้น
พอถึงก็ดับสูญสิ้นพระชนม์
..................
จากข้อความในพระราชพงศาวดาร นี้ ระบุชัดเจนว่า
สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ถูกพาหนี ออกจากพระราชวัง
ลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา 
จนถึงพระราชวังบางปะอิน 
ถึง ตำบลบ้านจิก
ใช้เวลาเดินทางหลบหนีพม่า มากว่า ๑๐ วัน
หมดแรงประทับอยู่ในสุมทุมพุ่มไม้
จนคนของพระนายกองไปตามพบ และนำพระองค์
กลับ มาลงเรือ "รับขึ้นไป ณ ค่ายโพสามต้น
พอถึงค่ายก็ดับสูญสิ้นพระชนม์
สมดังที่ จดหมายของมองเซนเยอร์บรีโกต์ 
เขียนไว้ว่า 
"ฝ่ายพระเจ้ากรุงสยามซึ่งเปนพระโรคเรื้อน นั้น
ก็หนีข้าศึกไป  และ ไปสวรรคตที่โพธิ์สามต้น"
...............
ข้อความฝ่ายพระราชพงศาวดาร ระบุ ว่า
"ฝ่ายพระนายกองจึงให้เชิญพระศพไปฝัง ณ โคกพระเมรุ 
ที่ถวายพระเพลิงในพระนคร นั้น"
ข้อความเป็นที่แน่ชัดว่า 
"ฝังพระศพไว้ในบริเวณ ที่สร้างพระเมรุ ในพระนคร "
ประกอบกับ หลังจากเจ้าตาก ตีค่ายโพสามต้น ได้แล้ว
เสด็จเข้ามาตั้งพลับพลาอยู่ในพระนคร 
"ให้ขุดพระศพพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งพระนายกองฝังไว้นั้น
กระทำพระโกศตามสังเขปใส่พระศพ 
แลให้ทำเมรุหุ้มด้วยผ้าขาว ตั้งเครื่องบูชาสักการะพอสมควร
นิมนต์พระสงฆ์เท่าที่หาได้มาสดับปกรณ์ ถวายไทยทาน 
และถวายพระเพลิง"
จากหลักฐานเอกสาร และจากการตรวจสอบแผนที่ แล้ว
เชื่อว่า บริเวณที่ฝังพระบรมศพของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์
พระราชากรุงศรีอยุธยา องค์สุดท้าย ก่อนถวายพระเพลิง
น่าจะอยู่ในบริเวณ ใกล้กับสระแปดเหลี่ยม 
หรือ บริเวณ "วิหารแกลบ" หน้าวิหารพระมงคลบพิตร
และถวายพระเพลิง ณ ที่เดียวกันนั้น  
ส่วน พระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์  
คงมี พระขัติยวงศ์ เจ้าหญิง ครั้งกรุงเก่า
คือ เจ้าฟ้าสุริยา เจ้าฟ้าจันทวดี เจ้าฟ้าพินทวดี 
พระองค์เจ้าฟักทอง 
พระองค์เจ้าทับทิม หรือ เจ้าครอกจันทบุรี
ทรงนำกลับยังกรุงธนบุรี ด้วย 
แต่จะนำไปประดิษฐาน ไว้ที่ไหนนั้น คงต้องตามหากันต่อไป






ตำแหน่งโคกพระเมรุ บริเวณวิหารแกลบ กับ วัดหน้าพระเมรุ

บริเวณที่ตั้ง พระเมรุมาศ สมัยพระนครศรีอยุธยา
ความในพระราชพงศาวดาร กล่าวถึง
การสร้างพระเมรุมาศ เมื่อครั้งแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม  ว่า
(พ.ศ.๒๑๕๗ ปีขาล ) โปรดให้ชักพระมงคลบพิตรอยู่ฝ่ายตะวันออก
มาไว้ฝ่ายตะวันตก แลัวให้ก่อมณฑปใส่ (เพราะใกล้ที่ตั้งพระเมรุมาศ)
(พ.ศ.๒๑๖๐ ปีมะเส็ง ) ทรงพระกรุณาให้พูนดินหน้าพระวิหารแกลบ 
ไว้เป็นที่สำหรับถวายพระเพลิง
หลักฐานสอดคล้องต้องกันกับ 
"พระนายกองจึงให้เชิญพระศพไปฝัง 
ณ โคกพระเมรุ ที่ถวายพระเพลิงในพระนคร นั้น"


บริเวณที่คาดว่าจะใช้เป็นสถานที่ตั้งพระเมรุมาศสมัยกรุงศรีอยุธยา หลังรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม ลงมาแล้ว



 บริเวณที่คาดว่าจะเป็นที่ตั้งพระเมรุมาศสมัยอยุธยา


พระเมรุมาศรัชกาลที่ ๕...
นำมาเปรียบเทียบเป็นตัวอย่างพระเมรุมาศสมัยอยุธยา


สระน้ำ ซึ่งเป็นหลุมเตรียมทำฐานรากสร้างมณฑปพระมงคลบพิตร แต่เดิม เมื่อย้ายพระมงคลบพิตรไปอยู่ในที่ปัจจุบันแล้ว หลุมฐานรากนี้จึงไม่ได้ใช้ ปรับเปลี่ยนเป็นอ่างเก็บน้ำแทน













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น