เส้นทางประวัติศารตร์ กรุงเทพ สู่ เขื่อนศรีนครินทร์

วัตรปฏิบัติ บางวัน ในการเรียน โบราณคดี รอบสอง

"บันทึกการเดินทางไปสำรวจแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี"

ตอน : จากกรุงเทพฯ ถึงบ้านเจ้าเณร

หลังจากออกไปรับ “เชษฐ์” ที่โรงแรมเวียงใต้

และติดต่อทำธุรกิจต่าง ๆ เป็นต้นว่า ส่งจดหมาย

ติดต่อสถานราชการของอเมริกาเรียบร้อย แล้ว

ก็ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ

๑๒.๐๐ น. แวะพระปฐมเจดีย์

กินอาหารกลางวัน และซื้อพัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ในระหว่างการเดินทาง

หลังจากนั้น เดินทางไปตามถนนมาลัยแมน แยกเข้าพนมทวน พอดีฝนตกลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น

นึกถึงสงครามยุทธหัตถี

ชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งนั้น

เป็นเกียรติภูมิของประเทศ ครั้งยิ่งใหญ่

จังหวัดไหนก็อยากจะเป็นสถานที่สำคัญของประวัติศาสตร์

ทำให้เกิดเจดีย์ยุทธหัตถี ขึ้นอีก ๑ องค์

ที่ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

๑๓.๔๕ น. ถึงลาดหญ้า แวะพักกินน้ำชั่วขณะแล้วเดินทางต่อ ระหว่างทางจากลาดหญ้าไป

เป็นถนนลูกรัง แต่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้

สองข้างทางเป็นไร่นา และป่าโปร่ง

แลเห็นทิวเขา รูปร่างแปลก ๆ ข้างทางแต่ไกล ๆ

มองเห็นชะง่อนผาสีแดง

ถ้าหากจำไม่ผิด คงเป็นหน้าผา บริเวณ "บ้านท่ามะนาว"

ซึ่งครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยมาทำงานกับ

อาจารย์วีรพันธุ์ มาไลยพันธุ์ แล้วครั้งหนึ่ง

ผ่านเขาชนไก่ไปแล้ว

เส้นทางถนนบางตอนวิ่งเรียบริมแควใหญ่บ้าง

วกวนเข้าไปในป่าไผ่ มีไร่บ้าง ป่าสูงบ้าง

น่าเสียดายที่ไม่มีความรู้เรื่องต้นไม้

ไม่อย่างนั้น คงเพลิดเพลินมากกว่านี้

สองข้างทาง บางแห่งจะมีป้ายของกรมป่าไม้

ติดไว้ตามต้นไม้

บ่งบอกถึงทางเข้าเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามล่าสัตว์

และก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านท่ามะนาว

มีด่านของกรมป่าไม้

คอยจดหมายเลขทะเบียนรถและรายละเอียดต่าง ๆ

ของผู้ที่จะผ่านเข้าออกในบริเวณนั้น

เขตนี้ถือว่าเป็นเขตคุ้มครองสัตว์ป่า

เพื่อมิให้คนละเมิดกฎหมายการคุ้มครองสัตว์ป่า

แต่ก็คงได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร

เพราะถึงกระนั้น ก็ยังมีคนลักลอบยิงสัตว์ป่าอยู่เนือง ๆ

จนเกิดคดีอื้อฉาว ขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้

เกี่ยวกับการรุกรานสัตว์ป่า

สัตว์ป่าก็คงจะต้องตายอยู่เนือง ๆ

เพราะชาวบ้านก็มักจะนั่งห้างยิงอยู่เป็นประจำเช่นกัน

แต่ก็คงจะไม่ร้ายแรง

และเป็นการทำลายชีวิตสัตว์เท่ากรณีที่ทุ่งใหญ่

แม้ว่ากรมป่าไม้จะแข็งขันสักพียงไรก็ตาม

แต่ก็คงจะควบคุมกันไม่ทั่วถึง

เพราะพื้นที่บริเวณของป่า

มิใช่จะแคบเพียงแค่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น

แต่มันกว้างใหญ่นักเป็นหมื่น ๆ ไร่

ตลอดทั้งภยันตรายต่าง ๆ

ที่จะต้องพจญอีกในป่า ก็แสนจะมีมากมาย

เกินกว่าพนักงานป่าไม้เพียงหยิบมือ จะทำการคุ้มครองได้ทั่วถึง

๑๕.๒๐ น. เดินทางถึงแค็มป์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต

ที่มาตั้งกองทำงานการสร้างเขื่อน

อยู่เหนือน้ำตกเอราวัณไปประมาณ ๔ - ๕ กม.

เรียกชื่อโครงการนี้ว่า

“โครงการสร้างเขื่อนบ้านเจ้าเณร”