Best Thai History

Amps

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วัตรปฏิบัติ บางวันในการเรียนโบราณคดี รอบสอง ตอน ๔ : ดินถม "เจดีย์ปลา" มาจากไหน ?

ตอน ๔ : ดินถม "เจดีย์ปลา" มาจากไหน ?

วันพฤหัสบดีที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๕ แรม ๖ ค่ำ

ความตั้งใจแต่เดิมที่จะตื่นเช้า สวดมนต์ นั่งวิปัสสนา
ไม่เป็นผลสำเร็จตามเคย
ทั้ง ๆ ที่เตรียมน้ำไว้ล้างหน้าแล้วก็ตาม
พรุ่งนี้เช้าต้องลองใหม่
ความขี้เกียจมีอำนาจเหนือจิตใจเหลือเกิน

เช้าประมาณ ๗ น.
ซักผ้าแล้ว ไปเรียนหนังสือตามปรกติ
ชั่วโมงแรกเป็นวิชา ประวัติศาสตร์ศิลป์ เรียน

เรื่อง ศิลปะเรอเนซองส์ Renaissance Arts
และ ศิลปะแบบคลาสสิคใหม่(Neo-Classic) ในอิตาลี

วิชานี้ออกจะวุ่นวายด้วย
ต้องจำชื่อของบรรดาศิลปินต่าง ๆ
ตลอดจน ผลงาน
มากกว่า การจดจำลักษณะศิลปะ และ

ศิลปินในสมัยนั้น มีมากมายหลายคนเหลือเกิน
มีที่พอจะจำได้ในตอนนี้
คือ ไมเคิล แอลเจโล (Michelangelo)
และ เรียวนาโด ดาวินชี (Leonardo da Vinci)

เท่าที่สรุปความได้ว่า
ศิลปะในสมัยเรอเนซองส์ เน้นหนักไปในเรื่อง
การแสดงภาพเหมือนของคนธรรมดาในปัจจุบัน(สมัยนั้น) มาก

ส่วนศิลปะแบบคลาสสิคใหม่(Neo-Classic)
หันกลับไปนิยม ศิลปะแบบกรีก และ โรมัน
ซึ่งเน้นหนักไปในเรื่อง อนาโตมี มาก

หมดชั่วโมง แล้วว่างไปจนบ่าย
จึงถือโอกาสข้ามเรือ
ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านตีนสะพานวัดดุสิตดาราม
ซึ่งพวกเพื่อน ๆ เขาบอกว่าอร่อยนัก
ทั้ง ๆ ที่เราเองก็เคยกินมาแล้ว เหมือนกัน

เราไปกัน ๖ คน มี ฉัน(วัชรินทร์) แดง(ลักขณา) ตุ่ม(สิริพรรณ) เรวัต ปื๊ด(พรชัย) บรรทม
พอเดินผ่านตลาด ก็มองหาอย่างอื่น
อาทิเช่น ขนมถ้วย เม็ดขนุน และขนมขี้แมว เป็นต้น
กินประกอบและนำกลับไปเป็นของขวัญวันปีใหม่
ให้พี่น้อง เพื่อนฝูงที่คณะ ไปด้วย ตามธรรมเนียม

รายการอาหารกลางวันนี้สนุกมาก
เมื่อกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เสร็จ
เดินเลยไปกินก๋วยเตี๋ยวหมู ที่ร้านหน้าศาลเจ้าพ่อเขา
ความจริงกะจะเลยไปกิน ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นทำเอง
ที่ตลาดวัดดาวดึงส์ อีกด้วย

แต่อิ่มกันเสียก่อน

ตรงหน้าศาลเจ้าพ่อเขา
มีสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก
อยู่ระหว่างโบสถ์กับวิหารของวัดภุมรินราชปักษี
เข้าใจว่าคงเป็นสระเดิมของวัด
ในบ่อมีปลาชุมมาก
โดยเฉพาะปลาช่อนที่กำลังเลี้ยงลูกครอกอยู่เป็นฝูง

พวกเราไปยืนดูด้วยความแปลกใจ ที่เห็นว่า
ยังมีที่อยู่ให้กับปลาพวกนี้ด้วย
ในท่ามกลางผู้คนที่กระหายจะจับมันมาทำเป็นอาหาร

ขากลับ ปื๊ด (พรชัย สุดลาภา )

สนใจ “ช้างมีครีบมีหางเป็นปลา”
ที่เจดีย์ปลา กลางสนามหน้าวัดดุสิต
เลยแวะเข้าไปดู

พอดี เขากำลังเอาดินมาถมโดยรอบ ๆ เจดีย์
จะทำอะไรสักอย่าง

คิดตามประสานักโบราณคดี ว่า
ในอนาคตข้างหน้า
หากมีการขุดแต่งเจดีย์องค์นี้
คงตีปัญหากันวุ่นวาย ว่า

เขาเอาดินที่ไหนมาถม
และมาถมทำไม อะไร ๆ ทำนองนี้

ถ้าเป็นวาสนาของสมุดเล่มนี้
ได้ถึงมือนักโบราณคดี ในอนาคต

ก็จะรู้ว่า

ดินที่เขาเอามาถมนั้น
เป็นดินที่ขนมาจากสถานที่ วัดน้อยทองอยู่
ใกล้กับบริเวณที่กำลังจะทำสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ตรงท่าช้างวังหน้า

สาเหตุที่เอามาถมที่สนามหน้าวัดดุสิต
เป็นเพราะแต่เดิมเป็นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมถึงอยู่เดิม

กลับไปเรียนต่อ อีก ๒ วิชา คือ วิชาภาษาเขมร
และ Conversation
เรียนจบชั่วโมง นั่งคุยต่อพักหนึ่ง
จนถึง ๑๗ น. กลับบ้าน


พัฒนาและทำลาย คือ นโยบายของบ้านเมืองยุคเศรษฐกิจและสังคม


เจดีย์ปลา กลางสนามหน้าวัดดุสิตาราม (วัดเสาประโคน) ปัจจุบัน แวดล้อมไปด้วยชุมชนเกยเจดีย์


ศาลเจ้าพ่อเขา วัดภุมรินทร์ราชปักษี


บริเวณที่ตั้งของวัดน้อยทองอยู่ เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ


เจดีย์ปลา (พุ่มไม้เขียว) กลางสนามหน้าวัดดุสิตาราม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น