Best Thai History

Amps

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ ) ชีวิตตกภูมิ "คนต้องขื่อคา" พ.ศ.๒๕๑๓ ตอนที่ ๑

ตอนที่ ๑ : สำรวจวัด เตรียมโครงการทำแผนแม่บท

อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา

วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๓

เริ่มต้น นั่งรถไฟ ไปลงสถานีรถไฟอยุธยา
นั่งรถไปหัวรอ ต่อไปลงทางเข้าวัดหน้าพระเมรุ
บ้านเช่า ริมแม่น้ำลพบุรี

วันจันทร์ที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๓

กินอาหารเช้า หัวรอ ต่อรถไปสำรวจวัด
พื้นที่ฝั่งอโยธยา เริ่มต้น จากวัดใหญ่ชัยมงคล

...สภาพของวัดในปัจจุบันได้แปรสภาพ
ไปให้ทันสมัยตามรสนิยม
หากไม่ติดด้วยพระราชบัญญัติโบราณวัตถุสถาน แล้ว
ก็อาจจะไม่มีสิ่งใดคงหลงเหลือ

ให้ดูอยู่ได้มากนัก

ออกจากวัดใหญ่ชัยมงคล
ไล่สำรวจเรื่อยไปทางใต้ ของวัดใหญ่ฯ
โดยสำรวจตามแผนที่
ที่นำข้อมูลจากแผนที่พระยาโบราณราชธานินทร์
ประกอบข้อมูลที่ข้อมูล
ที่ถอดออกมาจากภาพถ่ายทางอากาศ
และสร้างเป็นแผนที่อีกฉบับ

กลุ่มวัดร้างที่อยู่ถัดไปนี้
ถูกรถแทรกเตอร์ถราบจนเป็นพื้นนาพื้นไร่ ไปหมดสิ้น
ไม่เหลือซากที่เด่นชัดไว้ให้สังเกตได้เลย
นอกจากเศษอิฐและกระเบื้องที่กระจัดกระจายอยู่โดยทั่วไป

แนวคลองที่เห็น
ก็เลือนรางเพราะตื้นเขินมากแล้ว
แต่ยังพอเห็นเป็นเค้าลางอยู่บ้าง

เราใช้เวลาตระเวนสำรวจวัดในแถบนี้ คือ
เริ่มต้นตั้งแต่ "วัดใหญ่ชัยมงคล" ไปจนถึง "วัดอุโบสถแดง"

แล้ววกลัดทุ่งออกไปจนถึงทางตะวันออกสุด
จนสิ้นสุดถึง"วัดกุฎีหัก" และ "วัดสามปลื้ม"

ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน
ได้วัดตามที่ระบุไว้ในแผนที่ประมาณ ๕๐ วัดเศษ

ตลอดทั้งยังได้ชื่อวัดร้างอีกหลายวัด
สอบถามได้มาจากชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งชื่อต่าง ๆ เหล่านี้
เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกเองและตั้งขึ้นตามสิ่งที่พบเห็น
จะเอาเป็นหลักฐานที่แน่นอนไม่ได้
แต่ก็ไม่ควรจะละทิ้งไปเสียทีเดียว

จากการสอบถามชาวบ้าน
ได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า
เจ้าอาวาสวัดใหญ่ มีอิทธิพล
ทำให้ชาวบ้านในแถบนั้น....เกรงกลัวมาก

เราได้ข่าวมานานแล้วว่า
เจ้าอาวาส....
นิยมขายอิฐ และ ดิน
ชาวบ้านจึงเกรงว่า เจ้าอาวาสจะไปไล่ที่
จึงไม่อยากให้ข้อมูลอะไรมากนัก.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น