อัตชีวประวัติปฏิพัฒน์ (วัชรินทร์ )
ชีวิตตกภูมิ"คนต้องขื่อคา" พ.ศ.๒๕๑๓
ตอน : วัดร้าง กลุ่มวัดอินทาราม - วัดใหม่คลองสระบัว
วันพุธที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๓ ...
วัดอินทาราม
อยู่มาทางด้านทิศตะวันตกของวัดวิหารทอง
สถานะของวัด ยังคงเป็นวัดที่มีภิกษุจำพรรษา
ที่บริเวณโบสถ์เก่า
ได้วางรากฐานใหม่ทับ
จนมองไม่เป็นโบราณสถานหลังเก่า
ส่วนวิหารที่อยู่ทางตะวันออกของวัด
ก็กำลังถูกไถเกรดพื้นที่ เพื่อสร้างกุฎิใหม่
วัดร้าง เหนือวัดอินทราราม
เป็นโคกดินสูง
มีเศษอิฐหักกากปูนและดินเผากระจายอยู่โดยทั่วไป
โคกวัดปกคลุมด้วยไม้สะแก
โดยรอบเป็นนาในที่ลุ่ม
วัดตาหริ่ม
เป็นวัดร้างอยู่ทางทิศตะวันตก เหนือวัดวงฆ้อง
สภาพเนินดินที่เป็นโคกวัด
ปกคลุมไปด้วยป่า หญ้ารก และสวน
มีบ้านราษฎรปลูกอาศัยอยู่ชายเนินดิน
ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
วัดวงฆ้อง
สถานะวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา
โบสถ์ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ แล้ว
ส่วนวิหารและเจดีย์ยังคงอยู่ในสภาพดี
ที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์
แต่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
ตรวจดูแผนที่ วัดหายไปสองวัด
สอบถามเด็กเลี้ยงควายแถวนั้น
“วัดโพ อยู่ตรงไหน ?”
เด็กเลี้ยงควาย ชี้ออกไปฟากทุ่งฝั่งโน้น
หากไม่เหนื่อยเกินไป ก็คงจะไปต่อ
แต่ดูท่าทางจะไปไม่ไหวกัน
จึงเดินจะกลับบ้าน ที่ปากคลองสระบัว
เดินเลาะ ๆ เลี่ยง ๆ หลบเข้าหาสุมทุมพุ่มไม้
จะทำธุระส่วนตัวสักหน่อย
ต้องผงะ
เมื่อสถานที่ตรงนั้น เป็นโคกวัดร้างวัดหนึ่ง
สอบถามไม่มีใครรู้จักชื่อ
ที่แท้ “วัดโพ” ที่ถามหานั้น อยู่ตรงนี้ นั้นเอง
ส่วนหนึ่งของวัดโพ ถูกไถ
ทำถนนไปเรียบร้อยแล้ว
เดินตัดออกหลังวัดโพ ไป "วัดนมด้วน"
อยู่เหนือ วัดกุฎีทอง ค่อนมาทางทิศตะวันออก
เดินข้ามทุ่งไป ถึง "วัดเสลี่ยง"
ซึ่งตั้งอยู่บนโคก มีน้ำล้อมรอบ
ด้านทิศตะวันตกของโคกวัด
มีบ้านเรือนราษฎรสร้างอยู่อาศัย
เจดีย์วัดนี้ ดูแปลก คือ มี ๒ แบบ คือ
แบบที่ ๑ องค์ระฆังสูง ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม
ทรวดทรงคล้าย เจดีย์วัดมหาธาตุนครศรีธรรมราช
แบบที่ ๒ อยู่ทางทิศตะวันออก องค์ระฆัง สั้น
แต่ส่วนฐานสูงขึ้นไปมาก
จนคิดว่า น่าจะสร้างคนละยุคสมัยกัน
ทั้งนี้ เพราะ ได้พบใบสีมา ๒ แบบ
บนโคกวัดแห่งนี้ เช่นกัน กล่าวคือ
ใบสีมาแบบหนึ่ง เป็นใบสีมา หินทรายแดง
มีลวดลายดอกไม้อยู่ที่ส่วนหนาของใบสีมา
สถานะภาพของใบสีมา ใบนี้
ชาวบ้านนำมาใช้ทำเป็นหินลับมีดไปแล้ว
นอกจากใบสีมาใบนี้แล้ว
ยังมีใบสีมา หินชนวนอีกหลายใบ
วัดนี้ น่าสนใจศึกษาต่อเป็นอย่างมาก
วัดกุฎีทอง
อยู่เหนือวัดใหม่ ออกมาทางตะวันออก ของวัดหน้าพระเมรุ
น่าสนใจที่ วัดนี้
ใช้ดินถมจนฐานของโบสถ์นั้นสูงขึ้นมาก
บนเนินดินนี้ นอกจากจะใช้สร้างโบสถ์
ทรวดทรงเดียวกับวัดหน้าพระเมรุ แล้ว
ยังปรากฏเจดีย์ขนาดใหญ่ อีก ๒ องค์
เรียงกันอยู่ทางด้านหลังของโบสถ์ อีกด้วย
เขตพื้นที่ทำสังฆกรรมกว้างใหญ่มาก
ส่วนทางด้านหลังวัด เป็นป่าทึบ
เดินลัดจาก วัดกุฎีทอง
ไปเข้า "วัดใหม่"
ยังเหลือโบราณสถานอีกมาก
แต่มืดครึ้มและดูวังเวง เสียจน "ปอดลอย"
รีบ ๆ ทำงาน แล้วตัดสวนออกไปริมฝั่งน้ำ
ที่ไหนได้ วัดนี้ อยู่หลังบ้านพักพวกเราเอง.
(ร่าง)แผนที่ ทำโดยคณะทำงานอยุธยา ของ อนุกรรมการฯอยุธยา สำรวจ เมื่อ พ.ศ.2558
วัดอินทาราม ในวงแดง คือ ปรางค์ วัดวิหารทอง ที่เหลืออยู่
ปรางค์ ที่ยังเหลืออยู่ ของวัดวิหารทอง
วัดวงฆ้อง 2558
เจดีย์ วัดโพ 2558
เจดีย์ วัดวงฆ้อง 2558
เจดีย์ วัดโพ 2558
อาคารวิหาร วัดโพ 2558
เจดีย์ วัดเสลี่ยง 2558
เจดีย์ วัดเสลี่ยง 2558
ยอดเจดีย์ วัดเสลี่ยง 2558
เรือขุด กับ ขุนเจตน์ปกป้องอารามร้าง....อิ อิ — กับ สุรเจตน์ เนื่องอัมพร
เจดีย์หลังโบสถ์ วัดกุฎีทอง อย.2558
โบสถ์ วัดใหม่ ปากคลองสระบัว,2558
หอระฆัง วัดใหม่ คลองสระบัว 2558
ลงบันทึก ปี ๒๕๑๓ เรื่อง วัดเสลี่ยงไป
ที่กล่าวอ้างไว้ว่า เจดีย์องค์หนึ่งคล้าย ๆ แบบนครศรีธรรมราช
ได้เรื่องเลย...
"ขุนเจตน์ปกป้องวัดร้าง"
ส่งรูปตอน เกือบสมบูรณ์มาให้ดู เลยขอนำมาเปรียบเทียบในเฟส ด้วย ว่า ....กาลเวลา เพียงเกือบ ๕๐ ปี สังขารร่วงโรยไปแค่ไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น