ตอนที่ ๓ : กลุ่มวัดริมคลองกุฎีดาว
จันทร์ที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๓
สำรวจวัดร้างกลุ่มวัดใหญ่ชัยมงคล เสร็จแล้ว
ข้ามคลองข้าวเม่าตัดเข้าไป
“วัดนางคำ”
ซึ่งอยู่ริมคลองกุฎีดาว
ร่องรอยอื่น ๆ ของวัดนี้ ถูกทำลายไปหมดแล้ว
ยังคงเหลือแต่เพียงเจดีย์องค์ใหญ่เท่านั้น
ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม
ซ้อนกันขึ้นไปจนถึงองค์ระฆังที่ค่อนข้างยาว
ออกจาก "วัดนางคำ"
เดินลัดขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ถึง “วัดตึก”
มีคูน้ำล้อมรอบ อยู่ติดกับคลองกุฎีดาว เช่นเดียวกัน
ตัววัดถูกปกคลุมโดยป่าหนาทึบมาก
เลยเดินอ้อมขึ้นไปทางเหนือ
ถึง “วัดขุนดิน”
เห็นเป็นโคกวัดสูง
ยังปรากฏแนวกำแพงด้านทิศตะวันออก ยาวประมาณ ๑๕ เมตร ส่วนทางเหนือของวัดถูกแนวถนนที่เข้ามาขนดินในบริเวณนั้นกินพื้นที่เข้าไปเกือบครึ่งวัด
ที่ฝั่งตรงข้าม ใกล้ ริมคลองวัดกุฎีดาว
พวกที่มาสำรวจเมื่อวาน
พบศพผู้หญิงสาว อายุ ๑๖ ถูกฆ่าเปลือย ใบหน้ายับเยิน
ตำรวจสอบสวน ได้ความว่า
พวกสามล้อ ล่อลวงไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งไว้ตรงนั้น
และวันนี้ได้ข่าวว่าจับตัวคนขี่สามล้อคนนั้นได้แล้ว
ความรู้สึกของคนบางคน ที่ร่วมสำรวจด้วย
เริ่มแสดงตนหยิ่งผยองขึ้น
วางมาดเป็นใหญ่ เป็นเจ้ากี้เจ้าการ และขัดแย้ง
หรือเป็นเพราะเขาเข้ามาทำงานก่อน
มีความชำนาญในการสำรวจมากกว่า
ข้าพเจ้าก็ตามใจเขา ต้องทนได้
เพราะที่เรามาสำรวจอยุธยา นั้น
แน่ใจว่า คงจะได้ประโยชน์อะไรบ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ คงพอทนได้
ถ้าไม่หนักหนาจนเกินไป.
บริเวณวงแดง คือ พื้นที่สำรวจในครั้ง พ.ศ.๒๕๑๓ แสดงให้เห็น ความเปลี่ยนไปในปัจจุบัน
เจดีย์วัดนางคำ ริมคลองข้าวเม่าและคลองวัดกุฎีดาว ในปัจจุบัน2563
เจดีย์วัดนางคำ ริมคลองข้าวเม่าและคลองวัดกุฎีดาว ในปัจจุบัน2563 (บูรณะแล้ว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น