ตามรอยเชลยอยุธยาไป เมืองอังวะ
ในพงศาวดารพม่า กล่าวไว้ ตอนหนึ่งว่า ครั้นถึงวัน ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนมิถุนายน ศักราช ๑๑๒๙ ( พ.ศ.๒๓๑๐ ) กองทัพพม่า ก็ยกออกจากกรุงศรีอยุธยา พร้อมชาวกรุงศรีอยุธยา ๑๐๖,๑๐๐ คน รวมทั้งพระราชวงศานุวงศ์ อีก ๒,๐๐๐ กว่าพระองค์ เดินทางมาถึงกรุงรัตนปุระอังวะในเดือนเมษายน ศักราช ๑๑๓๐ ( พ.ศ.๒๓๑๑ ) พระเจ้าอยู่หัวโปรดให้เจ้าหน้าที่สร้างพระตำหนักสำหรับพระราชวงศ์ฝ่ายใน เช่น พระมเหสี พระธิดา และสตรีฝ่ายในไว้ในเขตกำแพงพระราชวัง ส่วนฝ่ายนอก เช่น พระราชโอรสและพระอนุชา ให้ประทับนอกกำแพงพระราชวัง ส่วนขุนนางทั้งหลายให้ปลูกเรือนอยู่ในเขตพระนคร
ในพระราชพงศาวดารไทย มิได้กล่าวถึงเส้นทางที่กวาดต้อนเชลยศึกกลับกรุงอังวะ ว่า ไปตามเส้นทางใด แต่เมื่อพิจารณาและตรวจดูเส้นทางที่จะเคลื่อนย้ายเชลยศึกจำนวนมากไปได้โดยสะดวก เห็นจะมีแต่เส้นทางขึ้นไปทางเหนือไปออกด่านแม่ละเมาที่แม่สอด ข้ามไปเมืองสเทิม ( Thaton ) เมืองพะโค ( Bago) ขึ้นไปตามลำแม่น้ำอิรวดี ไป ถึงเมือง แปร ( Pyay ) ไล่ขึ้นไปจนถึงเมืองอังวะ ตามลำดับ
ประกอบหลักฐานตามคำให้การของมหาโค มหากฤช มหาโคเป็นไทยชาวกรุงเก่าพม่าจับเอาไปกับพระเจ้าอุทุมพร คือขุนหลวงหาวัด ( ในคำให้การเรียกว่าเจ้าวัดประดู่ ) ไปพลัดกันที่เมืองแปร มหาโค ตกค้างอยู่ที่นั่นได้โอกาสจึงบวชเป็นพระภิกษุอยู่หลายพรรษา แล้วสึกออกมาได้ภรรยามีลูกชาย คือ มหากฤช ทั้งพ่อลูกพึ่งบุญอยู่ในพระมเหสี ของพระเจ้ามังระ ซึ่งเป็นมารดาของเจ้าจิงกูจา อยู่มาจนเจ้านายสิ้นบุญแล้วค่อยหลบเลี่ยงจากราชธานีของพม่ามาโดยลำดับ แล้วบวชเป็นพระ พากันหนีมาเมืองไทยทางเมืองเชียงใหม่ มาถึงกรุงเทพฯ ในรัชกาลที่ ๒ เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๕๓ หลังจากสมเด็จเจ้าฟ้าอุทุมพร สิ้นพระชนม์ใน ปี พ.ศ.๒๓๓๙ ( ๑๔ ปี)
Credit Comment
Jobb Virochsiri ผมเห็นด้วยว่าคงใช้เส้นทางเดินทัพหลักที่เดินทางสะดวกที่สุดและสะดวกแก่การคุ้มกัน น่าจะแบ่งเป็นระลอกไม่ได้ต้อนเอาไปเป็นกลุ่มใหญ่ทีเดียว อย่างในประวัติศาสตร์ก็เล่าว่ายังมีกองทหารพม่าคอยเก็บกวาดเชลยส่งกลับไปหลังจากทัพใหญ่ถอนไปแล้ว กลุ่มเจ้านายและขุนนางกับไพร่บริวารรับใช้น่าจะมีทหารควบคุมไปมากที่สุด อาจจะมีการส่งเชลยให้ทหารคุมไปปลูกข้าวรอไว้ก่อนเหมือนอย่างตอนยกพลเข้ามาบุกหรือไม่ บางพวกอาจถูกแยกไปจากกลุ่มที่เอาไปไว้อังวะ ให้ตรงไปที่จุดหมายเลยอย่างพวกที่ไปอยู่ Minbu หรือ Monywa แบบที่ไทยไปยกครัวลาวแล้วกระจายไปไว้อีสาน อีกพวกไว้ลพบุรี พวกตัวนายจึงเอาเข้ามาในพระนคร
Jobb Virochsiri ขออนุญาตขยายแผนที่ของพี่ต๋อย เส้นทางที่น่าจะสะดวกที่สุดเมื่อข้ามจากตากไปถึงพะโคคืเดินตรงไปหาแม่น้ำอิรวดี จะต่อเป็นแพถ่อทวนน้ำขึ้นไปเมื่อพ้นฤดูน้ำหลาก หรือจะเดินไปตามแม่น้ำก็น่าจะสะดวก จากแผนที่จะเห็นว่าคงปล่อยกลุ่มหนึ่งไว้ที่ Pyay ต่อไปก็ Minbu อีกกลุ่มขึ้นไปอีกหน่อยแล้วแยกไป Monywa พวกสุดท้ายกับตัวเจ้านายจึงเอาไปไว้ Sagaing
อีก ๑ เส้นทางที่น่าจับตามอง เชียงใหม่ เมืองแหง เมืองนาย สู่ อังวะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น