ตระกูลชาวนาโดยแท้ สามารถสืบค้นโครตเหง้าตระกูล ได้ไกลสุด ไม่เกินรัชกาลที่ ๔
อดีตบรรพบุรุษ (ต่อ) มาทางสายพ่อบ้าง..ตระกูลชาวนาโดยแท้ สามารถสืบค้นโครตเหง้าตระกูล ได้ไกลสุด ไม่เกินรัชกาลที่ ๔
พ่อเกิดปีเดียวกับแม่ (ปีชวด พ.ศ.๒๔๕๕ ) เป็นคนบ้านตลาดกรวด ที่ สมเด็จพระสรรเพชญ ที่ ๘ (พระเจ้าเสือ ) ปลอมพระองค์เสด็จไปชกมวย อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ปู่ (พ่อของพ่อ) ชื่อ ปั่น เป็นผู้ใหญ่บ้านตลาดกรวด เป็นชาวตำบลชะไว อำเภอไชโย ย่า (แม่ของพ่อ) ชื่อ อำแดงนุ่ม เกิดที่ตำบลตลาดกรวด พ่อเป็นลูกชายคนสุดท้อง คนเดียว ของปู่ย่า บวชเป็นเณร ได้ศึกษาเล่าเรียน กับท่านพระครูวิจิตรสุตคุณ (หลวงปู่เปรม) เจ้าอาวาสวัดไทรย์ สอบได้นักธรรม ตรี โท เอก
จน พ.ศ.๒๔๗๗ พ่ออายุ ๒๒ ปี ย้ายจากวัดไทรย์ จ.อ่างทอง มาจำพรรษาอยู่กับท่านเจ้าคุณวิเชียรมุนี วัดดุสิตาราม ตำบลบางยี่ขัน อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี เพื่อเรียนธรรมะชั้นเปรียญ สำนักวัดมหาธาตุ
ในปี พ.ศ.๒๔๗๘ พ่อก็สอบได้เปรียญธรรมตรี ชั้น ๓ จนถึง เปรียญ ๖ โดยมีคุณทวดใหญ่ เป็นโยมอุปฐาก มาโดยตลอด พ่อจึงต้องพายเรือมารับบาตรที่บ้านปากคลองเป็นประจำ เวลาคุณทวดใหญ่ ไม่ได้ลงไปใส่บาตร ก็จะมอบให้แม่เป็นคนลงไปใส่บาตรแทน พ่อ เป็นคนรูปหล่อ เรียบร้อย เคร่งขรึม ประพฤติตัวอยู่ในสมณะวิสัยอันดีงาม เวลาพายเรือมารับบาตร ไม่ค่อยพูดค่อยจา เคร่งครัดบริสุทธิ์ แต่ด้วยความที่แม่ต้องใส่บาตรแทนคุณทวดใหญ่เป็นประจำ ทำให้เกิดสนิทสนมเกิดความมักคุ้นและพึงพอใจกันขึ้นในภายหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น