วัดโพธาราม
วัดโพธาราม ที่กล่าวถึงในคำให้การขุนหลวงหาวัด (หน้า๑๙) พระเอกาทศรถ ให้สร้างวัด ....วัดโพธาราม วัดหนึ่ง อยู่นอกกรุงทิศตะวันตกเฉียงเหนือเมือง และว่าด้วยพิธีสิบสองเดือน ใน (หน้า๑๐๖) เดือน ๓ ชื่อ พิธีธัญญาเธาะ จึงออกไปเผาเข้าทุ่งวัดโพธาราม
ในพงศาวดารพระนครศรีอยุธยา มิได้มีกล่าวถึง วัดนี้ จะมีเฉพาะในอธิบายภูมิแผนที่พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าด้วย วังเจ้านายก็จะเป็นตำหนักเครื่องไม้ กำแพงอิฐก็น่าจะไม่ใคร่มีคงจะเป็นรั้วเสาไม้แก่น เพราะตั้งแต่ได้ตรวจค้นมา ก็พบวังเดียว ที่กำแพงก่ออิฐและมีรากตำหนักเป็นตึก วังนั้นอยู่ริมคลองบ้านบาตรตรงหลังวัดพิไชยออกไป และอยู่ใกล้กับวัดโพธารามได้พบแผ่นศิลาจารึกที่วัดโพธารามแต่แตกระจาย ตัวอักษรกระเทาะ อ่านไม่ได่ความเสียมาก ที่อ่านได้ในตอนต้นมีความว่าวัดนี้เดิมชื่อวัดเพ็ชร์ แต่ชำรุด เจ้าฟ้ารัศมีศรีสุริยวงศ์พงศ์กษัตริย์ทรงปฏิสังขรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เรียกว่าวัดโพธาราม จึงเห็นว่าวังนั้นอยู่ใกล้กับวัด คงเป็นเจ้าของวังเป็นผู้ปฏิสังขรณ์ วัดโพธารามจึงได้ลงไว้ในแผนที่ว่าเป็นวังเจ้าฟ้ารัศมี
วัดโพธาราม นี้ เป็นวัดอยู่ริมคลองบ้านบาตร ระหว่างวัดพิชัย กับวัดเจ้าฟ้าดอกเดื่อ ไม่ได้อยู่ติดกับชายทุ่งใด จึงไม่น่าจะเป็นวัดเดียวกับวัดโพธาราม ที่มีกล่าวถึงคำให้การขุนหลวงหาวัด หากกำหนดเอาชื่อวัดโพธาราม เป็นหลักในการพิจารณา เมื่อเทียบกับแผนที่พระยาโบราณแล้ว จะเห็นได้ว่าอยู่คนละทิศกัน
หากกำหนดด้วยทิศทางที่ตั้งว่า อยู่นอกกรุงทิศตะวันตกเฉียงเหนือเมือง มีชื่อ วัดอยู่ริมทุ่งภูเขาทอง ชื่อ “วัดลานโพธิ์” แม้ชื่อจะเปลี่ยนไป แต่ก็สมด้วยเหตุผลว่า ว่า
ในเดือน ๓ ทำพิธีธัญญาเธาะ หรือ พิธีเผาซังข้าวในนา หลังเก็บเกี่ยวแล้ว โดยมีความเชื่อว่าเป็นการ ส่งแม่โพสพกลับสู่ถิ่นเดิมหลังเสร็จสิ้นการช่วยเหลือมนุษย์ให้มีพืชพันธุ์ธัญญาหารแล้ว
ดังนั้น วัดลานโพธิ์ ริมทุ่งภูเขาทองน่าจะมีความเหมาะสมมากกว่า ทั้งทิศทางและเหตุผล
หมายเหตุ : ทั้งสองวัด ถูกทำลาย สูญไปหมดแล้ว
เครดิตภาพ : สุรเจตน์ เนื่องอัมพร
เครดิตภาพ : กูเกิล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น