อัตชีวประวัติ ปฏิพัฒน์(วัชรินทร์)
ชีวิตรับราชการ ช่วงที่ ๓
ตอน : วัดบ้านเมืองแมด พนมสารคาม ฉะเชิงเทรา
วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๒
สำรวจแหล่งชุมชนในเขตอำเภอพนมสารคาม
เข้าไปที่บ้านเมืองเก่า ดู “วัดเมืองแมด”
เห็นเพิ่งขึ้นฐานรากสร้างโบสถ์หลังใหม่ แต่ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่
ส่วนโบสถ์เก่าก่ออิฐถือปูน
ดูคร่ำคร่าทรุดโทรมมาก แต่ไม่ถึงกับจะพังภายในเวลาอันใกล้นี้
ลักษณะเป็นโบสถ์ทรงเตี้ยแจ้แบบลาว
กรอบหน้าต่างประตูทำเป็นรูปเหลี่ยมตอนบนโค้ง มีลายโบว์สะบัดประกอบ
อายุไม่มากสักเท่าไหร่ และ
ไม่มีสิ่งใดชวนให้เก็บรักษาไว้ได้เลย
ด้านหลังโบสถ มีเจดีย์องค์หนึ่ง
เรียกกันเป็นสามัญว่า “อาญา”
เมื่อครั้งที่เจดีย์พังลง ได้พบพระพุทธรูปต่าง ๆ มากมาย
สูญหายไปหมด ไม่เหลือให้เห็นในปัจจุบัน (๒๕๒๒)
พระอธิการสี ฐานงฺกโร เจ้าอาวาส เล่าให้ฟังว่า
ที่วัดยังมีพระเก่าคู่กับวัดอยู่ ๑ องค์ ที่ฐานมีจารึก
อ่านไม่ได้สักที
เลยรับอาสาจะช่วยอ่านให้
ท่านจึงพาเข้าไปดูในห้อง ซึ่งเก็บรักษาพระองค์นั้นไว้
ในห้องไม่เพียงแต่พระพุทธ องค์ที่มีจารึก
ยังมีองค์ใหญ่ ๆ ขนาดใกล้เคียงกัน อีก ๑๕ องค์
ไม่นับองค์เล็กองค์น้อยอีกจำนวนมาก
มีทั้งพระทรงเครื่องและไม่ทรงเครื่อง
จีวรธรรมดา และจีวรดอก ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในสมัยรัชกาลที่ ๔ - ๕
องค์พิเศษแปลกตาที่สุด คือ
พระพุทธรูปสำริด ประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย
รัศมีเป็นเปลว มีอัญญมณีประดับที่รัศมี และที่พระเนตรทั้งสอง
( เหลือแต่ที่พระเนตร)
ศิลปะแบบล้านช้าง
ขนาด หน้าตักกว้าง๒๒ ซม.องค์พระสูง ๓๖ ซม. สูงพร้อมฐาน ๖๓ ซม.
ที่ฐาน มีจารึกอักษรลาว ตัวธรรม เป็นภาษาไทย ๕ บรรทัด
สภาพตัวอักษรลบเลือน
อ่านมาเฉพาะ ๒ บรรทัด ที่มีศักราช ได้ความดังนี้
“ทสิทธิบวรบาษ จุลลสกราษ ราชา ๑๒๒๑๑.....”
อ่านว่า “จุลศักราช หนึ่งพันสองร้อยยี่สิบเอ็ด” ( จ.ศ.๑๒๒๑)
ลักษณะการเขียนเช่นนี้
เคยพบในจารึกฐานพระพุทธรูปบุเงิน บุทอง กรุพระธาตุพนม
จุลศักราช ๑๒๒๑ นี้ เท่ากับ พ.ศ.๒๔๑๒ ตรงกับปีที่ ๙ ในรัชกาลที่ ๔
จากการพูดคุย กับพระอธิการสี ฐานงฺกโร เจ้าอาวาส
และ ลุงสุข วันโพธิศก คนเก่าแก่ของชุมชน
พอได้รู้เรื่องชุมชนแห่งนี้ได้ว่า
บรรพบุรุษ ของชาวบ้านเมืองแมด
ราว ๒ - ๓ ชั่วอายุคน เป็นชาวลาวพวน
อพยพมาจากเมืองแมด ( เมืองแฮด ในลาว)
และเป็นธรรมเนียมของชาวลาว
เมื่อย้ายที่อยู่ไปต่างถิ่น ก็จะนำเอาชื่อบ้าน ดั่งเดิมของชุมชน
ไปตั้งเป็น ชื่อชมชนในถิ่นฐานใหม่ด้วย
เพื่อ ระลึกถึงความทรงจำในอดีตของชุมชน ว่า
เป็นคนหมู่เหล่าเดียวกัน
ดังนั้น เมื่อนำหลักฐานทั้งจากคำบอกเล่า
และหลักฐานที่ได้จากจารึกฐานพระพุทธรูป
มาวิเคราะห์ร่วมกันแล้ว เห็นว่า อยู่ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน
จึงสันนิษฐานว่า
วัดเมืองแมด สร้างขึ้น โดยชุมชนชาวลาวพวน
ที่อพยพมาจากบ้านเมืองแฮด ประเทศ สปป.ลาว
ตั้งแต่เมื่อ ราว ปี พ.ศ.๒๔๑๒ ลงมา
และยังคงอยู่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (๒๕๒๒ )
ขอบคุณ ภาพถ่ายทางอากาศ แผนที่ และภาพถ่ายประกอบ จาก Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น